文章
GENERATION BETA
24/03/2025คุณจรีพร จารุกรสกุล
ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ปี 2025 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางประชากรศาสตร์ที่เด็กเกิดใหม่ในปีนี้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Generation Beta (เกิดระหว่างปี 2025-2039) แทนที่ Generation Alpha (เกิดระหว่างปี 2010-2024) ที่ผ่านพ้นไป
Generation Beta เป็นชื่อที่ตั้งโดยคุณ Mark McCrindle นักประชากรศาสตร์และนักวิจัยทางสังคมชาวออสเตรเลีย ผู้มีชื่อเสียงในการให้คำนิยามเกี่ยวกับเจนเนอเรชันต่างๆ เพื่อสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะตัวและความท้าทายที่คนยุคนั้นๆ จะต้องเผชิญโดย เด็กๆ กลุ่ม Gen Beta นี้จะเติบโตขึ้นในยุคที่เทคโนโลยีขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ (Automation) กลายเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดวิถีชีวิตและการเรียนรู้ของพวกเขา ตลอดจนเป็นกลุ่มประชากรที่จะต้องเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไปจนถึงความท้าทายทางสังคมและวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตาม การเติบโตท่ามกลางบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนรุ่นก่อนก็ทำให้ Generation Beta มีลักษณะโดดเด่นหลายประการเช่นกัน
(1) ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี ขณะที่ Gen Alpha เติบโตมากับสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย Gen Beta จะเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีขั้นสูงและ AI ผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งการศึกษา การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลให้ Gen Beta มีความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในโลกไซเบอร์มากกว่าคนยุคก่อนๆ Gen Beta จึงสามารถนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยตอบสนองต่อปัญหาต่างๆ ของยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
(2) ความใส่ใจต่อประเด็นด้านความยั่งยืน Gen Beta เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นประชากรรุ่น Millennials (Gen Y) ตอนปลายและ Gen Z ตอนต้น ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความเชื่อและค่านิยมนี้ได้ถูกปลูกฝังสู่ลูกหลานรุ่นใหม่และส่งผลให้ Gen Beta มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์ พวกเขามีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจสังคม และพร้อมลงมือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกระดับ
(3) การยอมรับความแตกต่างและการมีส่วนร่วม หนึ่งในลักษณะเด่นของ Gen Beta คือการเปิดใจยอมรับความหลากหลายเนื่องจากพวกเขาเติบโตในยุคที่ประเด็นด้านความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติ และวัฒนธรรมได้รับความสำคัญ Gen Beta จึงคุ้นเคยกับการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนที่มีพื้นฐานแตกต่างจากตนเองมากกว่าประชากรรุ่นก่อนๆ
(4) การศึกษาและการเรียนรู้ Gen Beta จะได้รับการศึกษารูปแบบใหม่ตั้งแต่การเรียนในห้องเรียนที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) และเทคโนโลยีเสริม (Augmented Reality) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมไปจนถึงการใช้ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ตลอดเวลาในทุกสถานที่และทุกสถานการณ์ ซึ่งทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีก็จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
Generation Beta จึงเป็นตัวแทนของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย การเติบโตในโลกที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญจะทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดี การเตรียมความพร้อมและแรงสนับสนุนจากคนรุ่นก่อนทั้งการให้ความรู้และพัฒนาทักษะจำเป็นผ่านระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ การปลูกฝังกรอบความคิดแบบ Growth Mindset และการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างที่ดีก็จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ Generation Beta และคนรุ่นหลังสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต่อไป