記事
AI To Go Mainstream
27/03/2023คุณจรีพร จารุกรสกุล
ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ความก้าวหน้าขององค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน อีกทั้งยังมีส่วนชี้วัดทิศทางความสำเร็จของประเทศในระยะยาว โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่หลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน ได้มุ่งมั่นพัฒนาอย่างจริงจังคงหนีไม่พ้น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) นั่นเอง
ในปัจจุบัน กระแสการนำเทคโนโลยี AI มาใช้นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากและกำลังกลายมาเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งการเปิดตัวของ ChatGPT แชทบ็อทที่สามารถสื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงการเริ่มให้บริการของ DALL-E GauGAN และ Midjourney โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์รูปภาพจากคำอธิบายทางข้อความ ก็เป็นเหมือนเครื่องตอกย้ำว่าเทคโนโลยี AI นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ทั้งนี้ นักอนาคตศาสตร์ด้านเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Bernard Marr ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเทรนด์การพัฒนาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในปี 2023 ไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยแบ่งออกเป็น 5 แนวโน้มหลัก ได้แก่
(1) Democratization of AI หรือ การเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งาน (users) สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการเทรนอย่างยาวนานและมีต้นทุนการเทรนที่สูงเหมือนในอดีต ในปี 2023 นี้คาดว่าจะมีการพัฒนา AI-powered app รวมถึง low-code/ no-code platform ที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ทำให้องค์กรภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ได้ในวงกว้าง
(2) Generative AI เทคโนโลยี AI แขนงหนึ่งที่สามารถสร้างผลงาน หรือ content ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ดังสะท้อนจากจำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT ที่สูงถึง 1 ล้านรายภายในเวลา 5 วันหลังจากการเปิดให้ทดลองใช้งาน ด้วยความนิยมดังกล่าว ทำให้มูลค่าทางการตลาดของ Generative AI ได้ถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวถึง 126.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2031
(3) Ethical and Explainable AI ในอดีตการนำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดการกับข้อมูลบางประเภท อาทิ ข้อมูลด้านการเงิน และ ประวัติสุขภาพ เป็นต้น ยังถือว่ามีข้อจำกัดอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ตลอดจนความท้าทายในการใช้เทคโนโลยี AI มาประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนและไม่เป็นระบบ จึงทำให้ในปีนี้ คาดว่าจะมีการยกระดับเทคโนโลยี AI ให้สามารถดึง/ใช้ข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสามารถอธิบายวิธีการตัดสินใจได้อย่างน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
(4) Augmented Working ด้วยต้นทุนการเทรนเทคโนโลยี AI ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จะมีการนำเทคโนโลยี AI มาทำงานร่วมกับคนมากยิ่งขึ้นในหลายมิติ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI มาทำงานที่มีความซ้ำซ้อน (repetitive task) หรือ งานที่มีความเสี่ยงสูง (hazardous task) และ การใช้ AI มาช่วยวางแผนการจัดลำดับการขนส่ง (route optimization) ที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
(5)Sustainable AI ปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างมีความพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี AI ก็ได้ถูกคาดการณ์ว่าจะเข้ามีบทบาทสำคัญที่ช่วยผลักดันให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังจะเห็นได้จากการนำเทคโนโลยี computer vision ที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมมาช่วยค้นหาพื้นที่ที่มีการทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น
ในขณะที่เทคโนโลยี AI นั้นได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในชีวิตประจำวันและการให้บริการเชิงพาณิชย์ สัปดาห์หน้าเราคงจะได้มีโอกาสมาคุยกันต่อว่าเทคโนโลยี AI นั้นมีส่วนช่วยเสริมศักยภาพของภาคอุตสาหกรรม/ภาคธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอย่างไรกันบ้าง