文章
AI ARMS RACE
24/02/2025คุณจรีพร จารุกรสกุล
ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ข่าวที่เป็นประเด็นร้อนของวงการเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการเปิดตัว DeepSeek-R1 ของบริษัท DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากประเทศจีนที่กลายเป็นกระแสจากคำกล่าวอ้างว่าโมเดลภาษา (LLM) แบบโอเพนซอร์สของบริษัทนั้นมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโมเดลชั้นนำอย่าง ChatGPT o1 ของ OpenAI แม้ว่า DeepSeek-R1 จะถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ต้นทุนเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น้อยกว่าบริษัทชั้นนำของสหรัฐอเมริกาที่ต้องใช้เงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ รวมถึงบริษัทยังได้ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเก่าของ Nvidia ที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าเพียงแค่ 50,000 ตัวเท่านั้นในการเทรนโมเดล
แม้ว่าหลายฝ่ายจะมีคำถามถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ในการเทรนรวมถึงต้นทุนและจำนวนชิปที่แท้จริง แต่การประกาศดังกล่าวก็ส่งผลทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ในช่วงนั้นติดลบอย่างหนัก ตลอดจนจุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงเป็นวงกว้างว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังทุ่มเงินลงทุนสูงเกินจริงสำหรับการพัฒนาด้าน AI หรือไม่ รวมทั้งประสิทธิภาพของมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ห้ามการจำหน่ายชิปประมวลผลขั้นสูงให้แก่บริษัทสัญชาติจีน
ปรากฏการณ์ DeepSeek จึงสะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่กำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์การแข่งขันระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ มหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างเร่งพัฒนาความสามารถด้าน AI เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ ฝั่งสหรัฐฯ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Microsoft, OpenAI และ Anthropic ต่างทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนา AI โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านกฎหมายและนโยบายสำคัญ อาทิ CHIPS Act ที่มุ่งส่งเสริมการผลิต ออกแบบ และการวิจัยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศควบคู่กับมาตรการคุมเข้มการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังกว่า 40 ประเทศที่รวมถึงจีนและหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายส่งเสริมนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมถึงโครงการ Stargate ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ประกาศงบลงทุนกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการวิจัยและการใช้งาน AI ในสหรัฐฯ
ขณะที่จีนก็มีความก้าวหน้าในการพัฒนา AI ผ่านบริษัทเทคโนโลยี อาทิ Baidu, Alibaba และ ByteDance การเปิดตัว Qwen 2.5 โมเดล LLM แบบโอเพนซอร์สของ Alibaba Cloud ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความแม่นยำที่เพิ่มขึ้น DeepSeek ตัวอย่างของ Bottom-Up Innovation บริษัทสตาร์ทอัพ AI ขนาดเล็กที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมบนทรัพยากรจำกัด รวมถึงรัฐบาลจีนก็ได้ประกาศให้ AI เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้แผน Made in China 2025 และแผนการพัฒนา AI แห่งชาติที่มีเป้าหมายชัดเจนในการเป็นผู้นำด้าน AI ภายในปี 2030 พร้อมทั้งทุ่มงบประมาณและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการพัฒนาชิปและฮาร์ดแวร์สำหรับ AI ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้าน AI ระหว่างมหาอำนาจสหรัฐฯ-จีนก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการพัฒนาเทคโนโลยีเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการแข่งขันในด้านการเข้าถึงทรัพยากรสำคัญ เช่น ชิปประมวลผล ข้อมูล และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ฯลฯ ตลอดจนการชิงความได้เปรียบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรฐานและกฎระเบียบระหว่างประเทศที่แต่ละฝ่ายต่างพยายามผลักดันแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศของตน
ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่สามารถใช้จุดแข็ง อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล พลังงานสะอาด ฯลฯ เพื่อพัฒนาระบบนิเวศด้าน AI ที่เหมาะสมโดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ AI เพื่อยกระดับขีดความสามารถในอุตสาหกรรมที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยว และการแพทย์ ควบคู่กับการรักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับมหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ และจีน เพื่อรักษาผลประโยชน์และสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้แก่ประเทศไทยของเราต่อไป