記事

ARTIFICIAL SUPERINTELLIGENCE

12/02/2024

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีและการปรับตัวของแต่ละอุตสาหกรรม AI ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวางในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยศักยภาพที่สามารถเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจได้ในหลายมิติ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้น AI ยังทำงานได้อย่างจำกัดโดยมักถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเป็นหลัก แต่การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีทำให้ AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น จึงเกิดเป็น Generative AI ที่ถูกออกแบบให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีคุณภาพเทียบเคียงกับมนุษย์อีกด้วย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดตัวของเทคโนโลยีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการทำงานในแทบทุกอุตสาหกรรมจนทำให้ปีที่ผ่านมาถูกขนานนามว่าเป็นปีที่โลกเริ่มเข้าสู่ยุคสมัยของ AI อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง

ทั้งนี้ความสามารถของ AI ในปัจจุบันยังนับว่าเป็นระดับเริ่มต้นหรือที่เรียกว่า Artificial Narrow Intelligence (ANI) ซึ่งเป็น AI ประเภทที่ทำงานแทนมนุษย์ได้เพียงบางอย่างเท่านั้นเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านดังที่เราพบเห็นกันในปัจจุบัน เช่น ระบบการแนะนำสินค้า ระบบการค้นหาข้อมูล ระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม อนาคตของ AI จะพัฒนาจนก้าวไปสู่การเป็น Artificial General Intelligent (AGI) หรือ AI ที่มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ทั้งการเรียนรู้ การทำความเข้าใจสิ่งใหม่ การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีความเชี่ยวชาญหลากหลายและทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ และการพัฒนาของ AGI นี้เองก็จะมีส่วนช่วยให้พัฒนาไปสู่ Artificial Superintelligence (ASI) ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของระบบ AI ที่มีความสามารถเหนือกว่าสมองมนุษย์ในทุกๆ ด้าน

โดย AI ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับมนุษย์หรือเหนือกว่ามนุษย์นั้นจะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานของโลกในระดับพื้นฐานและสร้างประโยชน์ต่อทั้งมนุษย์และสังคมอย่างมาก ด้วยพลังในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีขั้นสูงนี้มาใช้แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การปลดล็อคข้อจำกัดทางการแพทย์ที่คงอยู่มานานเพื่อทำความเข้าใจและค้นหาวิธีการวินิจฉัยและรักษาโรค รวมถึงการพัฒนาเวชภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลอดไปจนถึงการไขความลับทางฟิสิกส์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการสำรวจอวกาศของมนุษย์

ถึงแม้เทคโนโลยีจะมีศักยภาพในการนำไปสู่โซลูชันอีกจำนวนมากที่มนุษย์คาดไม่ถึง อย่างไรก็ดี อันตรายหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีนี้ก็ยังคงสร้างความกังวลให้กับหลายฝ่ายเช่นกัน เนื่องจากความฉลาดของ ASI อาจพัฒนาไปถึงจุดที่มนุษย์ไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมและควบคุมได้ นอกจากนี้หากถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดอย่างการพัฒนาอาวุธที่ทรงพลัง การก่อวินาศกรรม หรือการก่อการร้ายก็อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของมนุษย์ได้ในที่สุด

ในขณะที่แน้วโน้มความสำเร็จของการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ยังเป็นข้อถกเถียงกันว่าจะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แต่ท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดด การสร้างสมดุลระหว่างการลดผลกระทบเชิงลบด้วยการพิจารณาประเด็นความเสี่ยงอย่างรอบครอบกับการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไป