ข่าวสารบริษัท
เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของ ปี 2556
13/11/2556
– รายได้จากการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2556 จำนวน 6,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36
- กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก ปี 2556 จำนวน 2,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 (กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้เท่ากับ 2,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51)
- บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการยอดขายที่ดินครั้งที่ 3 เป็น 2,300 ไร่
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของ ปี 2556 สรุปได้ดังนี้
กำไรสุทธิ
ในไตรมาส 3 ปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 625 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.064 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555 และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ในไตรมาส 3 ปี 2556 จำนวน 675.9 ล้านบาท (ไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 50.9 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45
สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,085.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.215 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555
การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนแรก ปี 2556 มาจากการเติบโตของทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภค และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ใน 9 เดือนแรก ปี 2556 บริษัทฯมีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากการลงทุนพลังงาน (โครงการเก็คโค่-วัน และโครงการกัลฟ์ เจพี เอ็นแอลแอล) จำนวน -109.5 ล้านบาท เปรียบเทียบจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจำนวน 147.3 ล้านบาทจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้สำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 2,195.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า “โดยรวม บริษัทฯ มีผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2556 ที่ดี โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานจำนวน 6,358.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 กำไรจากการดำเนินงานจำนวน 2,490.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับร้อยละ 39 และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 2,195.4 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้รายได้ของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นจากรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 รายได้จากระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เช่นเดียวกับรายได้จากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2556 บริษัทฯสามารถขายที่ดินไปแล้วกว่า 1,978 ไร่ (791 เอเคอร์ หรือ 316 เฮกตาร์ จากสัญญาจำนวน 82 สัญญา โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย และจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 32 ราย อีกทั้งตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เห็นได้จากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการทุนหรือบีโอไอที่มีการอนุมัติโครงการการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2556 มูลค่ารวม 798,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากปัจจัยดังกล่าว ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินปี 2556 เป็น 2,300 ไร่ จากเป้าหมายเมื่อต้นปีที่ 1,600 ไร่
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯได้ร่วมทุนอยู่ร้อยละ 35 รวมถึงโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 126 เมกกะวัตต์ (SPP) ที่เหมราชฯ ร่วมมือกับกัลฟ์ เจพีนั้น ก็มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
การลงทุนของบริษัทฯ มีการเติบโตที่สมดุลในธุรกิจหลัก อาทิ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภค ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าให้เช่าและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้มีการพัฒนารายได้และกำไรอย่างสมดุลและสม่ำเสมอ โดยกลยุทธ์ของบริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวเป็นหลัก”
รายได้รวมและผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรก ปี 2556 สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,320.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 4,637 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2555 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 โดยรายได้มาจากธุรกิจหลักจำนวน 6,358.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้การขายที่ดินอุตสาหกรรมใน 9 เดือนแรก ปี 2556 มีจำนวน 4,030.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 และ อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 50 ทั้งนี้ยังมีรายได้จากการขายที่ดินอุตสาหกรรมที่รอการรับรู้อีกเป็นจำนวน 4,158 ล้านบาทที่รอการรับรู้ในช่วง 3-24 เดือนข้างหน้าด้วยวิธีการรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อมีการโอน
รายได้จากระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1,174 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 14 ซึ่งเกิดจากปริมาณและอัตราการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น รายได้จากระบบสาธารณูปโภคนั้นยังรวมถึงค่าบริการระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม และเงินปันผลจากบริษัทด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และค่าบริการระบบสาธารณูปโภคและบริการอื่นๆ จำนวน 1,204.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และการให้บริการที่รวมถึงการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าให้เช่า การให้เช่าฐานวางท่อ และการให้เช่าสำนักงานเพิ่มขึ้น 745.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่รวมถึงการขายโรงงานสำเร็จรูป การขายโครงการที่พักอาศัย ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 377.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 249
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 3,039.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) จำนวน 2,490.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) ที่แข็งแกร่ง ร้อยละ 48 และร้อยละ 39 ตามลำดับ
เหตุการณ์สำคัญใน 9 เดือนแรก ปี 2556
• บริษัทฯ มียอดขายที่ดินอุตสาหกรรม จำนวน 1,978 ไร่ จาก 82 สัญญา โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย และจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 32 ราย รวมจำนวนลูกค้าจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 605 รายจากสัญญาซื้อขายทั้งสิ้น 914 สัญญา เป็นลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวน 212 รายจากสัญญาซื้อขายจำนวน 322 สัญญา
• พื้นที่เช่าของโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 หรือ 48,476 ตารางเมตร จากสิ้นปี 2555 รวมพื้นที่เช่าทั้งหมด 284,285 ตารางเมตร และมีสัญญาเช่าล่วงหน้าคิดเป็นพื้นที่รวม 11,506 ตารางเมตร
• พื้นที่เช่าของคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 55,325 ตารางเมตร จากสิ้นปี 2555 รวมพื้นที่เช่าทั้งหมด 72,145 ตารางเมตร
• บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้ในไตรมาส 1 ปี 2556 จำนวน 2,500 ล้านบาท อายุ10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.5
เหตุการณ์สำคัญหลังไตรมาส 3 ปี 2556
• คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 จำนวน 0.06 บาทต่อหุ้น มีกาหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 กันยายน 2556
งบดุลรวมสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2556 ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯ ได้แสดงสินทรัพย์รวม จำนวน 29,564 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 17,142 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 12,422 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 1.27 เท่า โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเป็นจำนวน 1,314 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก ปี 2556 จำนวน 2,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 (กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้เท่ากับ 2,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51)
- บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการยอดขายที่ดินครั้งที่ 3 เป็น 2,300 ไร่
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของ ปี 2556 สรุปได้ดังนี้
กำไรสุทธิ
ในไตรมาส 3 ปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 625 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.064 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555 และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ในไตรมาส 3 ปี 2556 จำนวน 675.9 ล้านบาท (ไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 50.9 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45
สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,085.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.215 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555
การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนแรก ปี 2556 มาจากการเติบโตของทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภค และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ใน 9 เดือนแรก ปี 2556 บริษัทฯมีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากการลงทุนพลังงาน (โครงการเก็คโค่-วัน และโครงการกัลฟ์ เจพี เอ็นแอลแอล) จำนวน -109.5 ล้านบาท เปรียบเทียบจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจำนวน 147.3 ล้านบาทจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้สำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 2,195.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า “โดยรวม บริษัทฯ มีผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2556 ที่ดี โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานจำนวน 6,358.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 กำไรจากการดำเนินงานจำนวน 2,490.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับร้อยละ 39 และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 2,195.4 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้รายได้ของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นจากรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 รายได้จากระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เช่นเดียวกับรายได้จากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2556 บริษัทฯสามารถขายที่ดินไปแล้วกว่า 1,978 ไร่ (791 เอเคอร์ หรือ 316 เฮกตาร์ จากสัญญาจำนวน 82 สัญญา โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย และจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 32 ราย อีกทั้งตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เห็นได้จากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการทุนหรือบีโอไอที่มีการอนุมัติโครงการการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2556 มูลค่ารวม 798,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากปัจจัยดังกล่าว ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินปี 2556 เป็น 2,300 ไร่ จากเป้าหมายเมื่อต้นปีที่ 1,600 ไร่
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯได้ร่วมทุนอยู่ร้อยละ 35 รวมถึงโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 126 เมกกะวัตต์ (SPP) ที่เหมราชฯ ร่วมมือกับกัลฟ์ เจพีนั้น ก็มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
การลงทุนของบริษัทฯ มีการเติบโตที่สมดุลในธุรกิจหลัก อาทิ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภค ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าให้เช่าและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้มีการพัฒนารายได้และกำไรอย่างสมดุลและสม่ำเสมอ โดยกลยุทธ์ของบริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวเป็นหลัก”
รายได้รวมและผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรก ปี 2556 สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,320.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 4,637 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2555 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 โดยรายได้มาจากธุรกิจหลักจำนวน 6,358.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้การขายที่ดินอุตสาหกรรมใน 9 เดือนแรก ปี 2556 มีจำนวน 4,030.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 และ อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 50 ทั้งนี้ยังมีรายได้จากการขายที่ดินอุตสาหกรรมที่รอการรับรู้อีกเป็นจำนวน 4,158 ล้านบาทที่รอการรับรู้ในช่วง 3-24 เดือนข้างหน้าด้วยวิธีการรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อมีการโอน
รายได้จากระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1,174 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 14 ซึ่งเกิดจากปริมาณและอัตราการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น รายได้จากระบบสาธารณูปโภคนั้นยังรวมถึงค่าบริการระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม และเงินปันผลจากบริษัทด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และค่าบริการระบบสาธารณูปโภคและบริการอื่นๆ จำนวน 1,204.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และการให้บริการที่รวมถึงการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าให้เช่า การให้เช่าฐานวางท่อ และการให้เช่าสำนักงานเพิ่มขึ้น 745.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่รวมถึงการขายโรงงานสำเร็จรูป การขายโครงการที่พักอาศัย ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 377.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 249
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 3,039.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) จำนวน 2,490.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) ที่แข็งแกร่ง ร้อยละ 48 และร้อยละ 39 ตามลำดับ
เหตุการณ์สำคัญใน 9 เดือนแรก ปี 2556
• บริษัทฯ มียอดขายที่ดินอุตสาหกรรม จำนวน 1,978 ไร่ จาก 82 สัญญา โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย และจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 32 ราย รวมจำนวนลูกค้าจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 605 รายจากสัญญาซื้อขายทั้งสิ้น 914 สัญญา เป็นลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวน 212 รายจากสัญญาซื้อขายจำนวน 322 สัญญา
• พื้นที่เช่าของโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 หรือ 48,476 ตารางเมตร จากสิ้นปี 2555 รวมพื้นที่เช่าทั้งหมด 284,285 ตารางเมตร และมีสัญญาเช่าล่วงหน้าคิดเป็นพื้นที่รวม 11,506 ตารางเมตร
• พื้นที่เช่าของคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 55,325 ตารางเมตร จากสิ้นปี 2555 รวมพื้นที่เช่าทั้งหมด 72,145 ตารางเมตร
• บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้ในไตรมาส 1 ปี 2556 จำนวน 2,500 ล้านบาท อายุ10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.5
เหตุการณ์สำคัญหลังไตรมาส 3 ปี 2556
• คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 จำนวน 0.06 บาทต่อหุ้น มีกาหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 กันยายน 2556
งบดุลรวมสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2556 ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯ ได้แสดงสินทรัพย์รวม จำนวน 29,564 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 17,142 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 12,422 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 1.27 เท่า โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเป็นจำนวน 1,314 ล้านบาท