บทความ
EVERYDAY AI
01/07/2567คุณจรีพร จารุกรสกุล
ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เป็นที่ทราบกันดีว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการพัฒนาของอัลกอริทึมและระบบประมวลผลที่ทรงพลัง รวมถึงการมีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่เป็นเสมือนพลังขับเคลื่อนให้เทคโนโลยี AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดล้ำสมัยและใช้งานในวงจำกัดอีกต่อไป แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันโดยส่งผลต่อทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานของเราอย่างมีนัยสำคัญ
จากความก้าวหน้าของ AI ได้นำไปสู่การเกิดขึ้นของแอปพลิเคชันหลากหลายที่เข้ามาอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการต่างๆ ของมนุษย์เราในทุกแง่มุม เริ่มตั้งแต่การใช้ชีวิตภายในบ้านด้วยการเป็นผู้ช่วยควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของบริเวณโดยรอบ เมื่อต้องออกเดินทางก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรและแนะนำเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด ด้านสุขภาพก็สามารถทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญส่วนตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ พร้อมทั้งคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคและวิธีการป้องกันที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ในด้านความบันเทิงยังสามารถแนะนำเนื้อหาที่ตรงกับพฤติกรรมและความชอบไม่ว่าจะเป็นสินค้า ภาพยนตร์ เพลง หรือวิดีโอ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการค้นหาด้วยตนเอง
นอกเหนือจากการเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในชีวิตประจำวันแล้ว AI ยังได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมโลกการทำงานให้ต่างไปจากเดิมโดยปัจจุบันเราเองก็เริ่มเคยชินกับการนำ AI เข้ามาช่วยในการทำงานทำให้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การช่วยร่างเนื้อหาพร้อมตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ หรือการเป็นผู้ช่วยในการประชุมด้วยเครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติที่เข้ามาช่วยลดอุปสรรคด้านการสื่อสาร พร้อมทั้งจัดทำบันทึกการประชุม หรือการค้นหาข้อมูลพร้อมสรุปเนื้อหาสำคัญ นอกจากนี้ AI ยังเข้ามาช่วยลดภาระงานที่ต้องใช้เวลามากอย่างการป้อนข้อมูล การจัดเอกสาร หรือการตอบคำถามลูกค้าเบื้องต้น รวมถึงเปลี่ยนกระบวนการที่ซับซ้อนยุ่งยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลตลาด พฤติกรรมลูกค้า และคู่แข่งเพื่อหา Insight ที่ซ่อนอยู่และนำไปใช้ในการคาดการณ์แนวโน้ม ตลอดจนวางแผนกลยุทธ์ซึ่งช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันต่อสถานการณ์
ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ได้เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับคุณภาพชีวิตของเราได้มากเพียงใด อย่างไรก็ตาม เราในฐานะผู้ใช้งานควรต้องตระหนักถึงทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่มาพร้อมกัน ทั้งมุมมองส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ตลอดจนการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้บั่นทอนทักษะการคิดวิเคราะห์ ในขณะที่องค์กรต่างๆ อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับ หากองค์กรมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ขาดการควบคุมที่เข้มงวด หรือพนักงานไม่ระมัดระวังในการใช้งาน นอกจากนี้ สังคมอาจเผชิญกับปัญหาอาชญากรที่รุนแรงมากขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการหลอกลวงจนคนไม่สามารถแยกข้อมูลที่ถูกต้องได้ อีกทั้งยังมีประเด็นด้านความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีและผลกระทบต่อตลาดแรงงานที่ไม่อาจมองข้าม
ถึงแม้ว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีจะนำมาซึ่งความเสี่ยงในหลายมิติ แต่การพัฒนาของ AI ก็ยังคงจะดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในทุกภาคส่วนของสังคม ดังนั้น การปรับตัวและพัฒนาทักษะความรู้ใหม่ๆ รวมถึงการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยง และการรักษาสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและการคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีได้นั่นเอง