ข่าวสารบริษัท
เหมราชฯ มั่นใจอนาคตธุรกิจสดใส
20/01/2558
ทั้งนิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค ไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น
กรุงเทพฯ/20 มกราคม 2558 – บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (“เหมราช”) ประกาศยอดขายที่ดิน ปี 2557 จำนวน 665 ไร่ (266 เอเคอร์ หรือ 106 เฮกตาร์) จากสัญญาทั้งสิ้น 42 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 31 ราย และเป็นการขยายกิจการของลูกค้าเดิม 11 ราย เป็นนักลงทุนญี่ปุ่นร้อยละ 30 และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ร้อยละ 30 เช่นกัน
แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวในปี 2557 อันเนื่องมาจากผลกระทบทางการเมืองในประเทศไทย ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สถานะทางการเงินของเหมราชฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์ ณ เดือนกันยายน 2557 รวมมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านบาท และมีสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท อยู่ที่ 1.06 เท่า และเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 ที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทจาก “A-” เป็น “A” สะท้อนถึงความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างรายได้ที่สามารถคาดการณ์รายรับได้แน่นอนมากขึ้น โดยธุรกิจสาธารณูปโภค ไฟฟ้า และบริการให้เช่าของบริษัทสามารถทำรายได้รวมกันมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวม
ในปี 2557 การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 8,522 ตารางเมตร ทำให้ยอดพื้นที่ให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป รวมอยู่ที่ 302,070 ตารางเมตร ในขณะที่บริการคลังสินค้าให้เช่าในโลจิสติกส์พาร์คของเหมราชฯเพิ่มขึ้น 10,290 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากยอดสะสมของปี 2556 ส่วนปริมาณความต้องการด้านบริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยในปี 2556
สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ (IPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหมราชถือหุ้นร้อยละ 35 และบริษัทโกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 (GDF Suez group) สามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 ซึ่งมากกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีการลงทุนของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชรวมมูลค่าราว 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 800,600 ล้านบาท) ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เหมราชภูมิใจที่มีส่วนอย่างมากในการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอุตสาหกรรมยานยนต์
อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ปัจจุบันลูกค้าชั้นนำในนิคมอุตสาหกรรมของเรามีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเหล่านี้”
“เหมราชฯ ยังคงเป็นบริษัทที่เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจของนักลงทุนอุตสาหกรรม” มร. นาร์โดน กล่าวสรุป “ด้วยรายได้จากสี่ธุรกิจหลักซึ่งส่งเสริมกันและกัน จะทำให้ความสำเร็จของเรามั่นคงยิ่งขึ้น และก้าวไกลกว่าเดิม ในปี 2558 เหมราชฯ ตั้งเป้าการขายที่ดินอุตสาหกรรมที่จำนวน 1,400 ไร่ (554 เอเคอร์ หรือ 224 เฮกตาร์) ”
กรุงเทพฯ/20 มกราคม 2558 – บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (“เหมราช”) ประกาศยอดขายที่ดิน ปี 2557 จำนวน 665 ไร่ (266 เอเคอร์ หรือ 106 เฮกตาร์) จากสัญญาทั้งสิ้น 42 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 31 ราย และเป็นการขยายกิจการของลูกค้าเดิม 11 ราย เป็นนักลงทุนญี่ปุ่นร้อยละ 30 และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ร้อยละ 30 เช่นกัน
แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวในปี 2557 อันเนื่องมาจากผลกระทบทางการเมืองในประเทศไทย ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สถานะทางการเงินของเหมราชฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์ ณ เดือนกันยายน 2557 รวมมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านบาท และมีสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท อยู่ที่ 1.06 เท่า และเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 ที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทจาก “A-” เป็น “A” สะท้อนถึงความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างรายได้ที่สามารถคาดการณ์รายรับได้แน่นอนมากขึ้น โดยธุรกิจสาธารณูปโภค ไฟฟ้า และบริการให้เช่าของบริษัทสามารถทำรายได้รวมกันมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวม
ในปี 2557 การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 8,522 ตารางเมตร ทำให้ยอดพื้นที่ให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป รวมอยู่ที่ 302,070 ตารางเมตร ในขณะที่บริการคลังสินค้าให้เช่าในโลจิสติกส์พาร์คของเหมราชฯเพิ่มขึ้น 10,290 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากยอดสะสมของปี 2556 ส่วนปริมาณความต้องการด้านบริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยในปี 2556
สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ (IPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหมราชถือหุ้นร้อยละ 35 และบริษัทโกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 (GDF Suez group) สามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 ซึ่งมากกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีการลงทุนของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชรวมมูลค่าราว 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 800,600 ล้านบาท) ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เหมราชภูมิใจที่มีส่วนอย่างมากในการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอุตสาหกรรมยานยนต์
อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ปัจจุบันลูกค้าชั้นนำในนิคมอุตสาหกรรมของเรามีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเหล่านี้”
“เหมราชฯ ยังคงเป็นบริษัทที่เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจของนักลงทุนอุตสาหกรรม” มร. นาร์โดน กล่าวสรุป “ด้วยรายได้จากสี่ธุรกิจหลักซึ่งส่งเสริมกันและกัน จะทำให้ความสำเร็จของเรามั่นคงยิ่งขึ้น และก้าวไกลกว่าเดิม ในปี 2558 เหมราชฯ ตั้งเป้าการขายที่ดินอุตสาหกรรมที่จำนวน 1,400 ไร่ (554 เอเคอร์ หรือ 224 เฮกตาร์) ”