DATA MONETIZATION

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

จากการที่เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของผู้คนส่งผลให้ปริมาณของข้อมูลในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เมื่อประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการประมวลผลและการวิเคราะห์จึงทำให้ข้อมูลสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ข้อมูลจึงกลายเป็นสินทรัพย์ทางกลยุทธ์ที่มีค่าอย่างมากขององค์กร โดยหากองค์กรใดมีความพร้อมของข้อมูลมากกว่า องค์กรนั้นย่อมมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่าด้วยเช่นกัน

เมื่อข้อมูลเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ หลายองค์กรจึงตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและการนำข้อมูลมาใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ (Data Monetization) ซึ่งเป็น กลยุทธ์สำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันในยุคดิจิทัล ด้วยแนวทางดังกล่าว ข้อมูลจะถูกนำมาใช้ในกระบวนการทำงานและการตัดสินใจเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้า/บริการรูปแบบใหม่ที่สร้างคุณค่า/ประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมถึงการต่อยอดไปสู่การวางกลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดไปจนถึงการช่วยลดกระบวนการและลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย

โดยที่ผ่านมาเราจะได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของการทำ Data Monetization จากกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี อาทิเช่น Google และแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ ที่นำข้อมูลการใช้บริการของผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลมาต่อยอดในการสร้างบริการโฆษณาที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายที่ต้องการ หรือ Amazon ที่นำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล หรือ LinkedIn ที่มีบริการสำหรับ Premium Subscriber ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ความสำเร็จนั้นก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่มีฐานข้อมูลของผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากเท่านั้น บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถนำข้อมูลไปต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Starbucks ที่สามารถนำข้อมูลจากระบบ Loyalty Program มาใช้ประกอบการวางแผนและการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่การทำการตลาด การพัฒนาสูตรเครื่องดื่ม รวมไปถึงการเลือกที่ตั้งสำหรับขยายสาขา เป็นต้น

อย่างไรก็ดี Data Monetization นั้นเป็นเพียงปลายทางของการเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล แต่จุดเริ่มต้นของความสำเร็จนั้นต้องเกิดมาจากการวาง Data Strategy หรือการกำหนดวัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลไปใช้อย่างชัดเจน รวมถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยต้องมีระบบบริหารจัดการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลที่มีเป็นข้อมูลคุณภาพและสามารถนำไปใช้งานได้จริง ทั้งนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำเร็จนั้นคือการปลูกฝัง Data Driven Mindset ผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ทุกคนในองค์กรเห็นภาพและมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน

การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระดับองค์กรนั้นถือเป็นเรื่องยากและไม่อาจเกิดขึ้นได้เพียงข้ามคืน นอกจากนี้ ลำพังทีมงานใดเพียงทีมงานหนึ่งก็”คงไม่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กรได้อย่างสมบูรณ์ การบรรลุภารกิจที่สำคัญเช่นนี้จึงต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกคนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ในอนาคตให้กับองค์กรนั่นเอง