文章

THE NEXT FRONTIER OF MOBILITY

10/03/2025

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเดินทางไม่ได้เป็นเพียงแค่การเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งเท่านั้นแต่พัฒนากลายเป็นระบบนิเวศอันซับซ้อนที่หลอมรวมมิติด้านเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า The International Energy Agency (IEA) คาดการณ์ว่าในปี 2024 ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะมีจำนวนสูงถึง 16.6 ล้านคันและคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดยมีประเทศจีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลัก ซึ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ก็เป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล การลดลงของราคาแบตเตอรี่ และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

พฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ต้องปรับตัว Volkswagen, BMW, Mercedes-Benz, General Motors และ Ford ประกาศการลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดแบบปลั๊กอิน ขณะที่ผู้ผลิตหน้าใหม่อย่าง Tesla และ BYD ก็กำลังท้าทายผู้เล่นเดิมด้วยกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ นวัตกรรมและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบของยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) ก็กำลังเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้ขับขี่ บริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังทดสอบและพัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่มีความสามารถในการขับขี่ระดับต่างๆ ตั้งแต่ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงไปจนถึงยานยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เองโดยสมบูรณ์ Waymo (บริษัทในเครือ Google), Tesla, Cruise, Mobileye และ Baidu ต่างลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อเป็นผู้นำในตลาดนี้

นอกจากนั้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญยังรวมถึง Shared Mobility ที่เปลี่ยนแนวคิดจากการเป็นเจ้าของยานพาหนะไปสู่การบริการโมบิลิตี้แบบแบ่งปันหรือการใช้ยานพาหนะร่วมกัน การเติบโตของธุรกิจ Mobility as a Service (MaaS) โดยผู้ให้บริการ อาทิ Uber, Lyft, Didi Chuxing, Lime และ Bird สำหรับบริการเช่ารถยนต์ (Car-Sharing) การเรียกรถผ่านแอป (Ridesharing & Ride-Hailing) และไมโครโมบิลิตี้ (Micro-Mobility) เช่น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานกำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการเดินทางในเมือง

The Next Frontier of Mobility จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่มีความยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เช่น Mobilix ธุรกิจใหม่ของ WHA Mobility ที่มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Built-to-Suit EV Ecosystem of Logistics ที่ครอบคลุมบริการการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service) สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (On-Premise & Public EV Charging Solution) และแพลตฟอร์มการจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ (Mobilix Software Solution)

ตลอดจนโอกาสที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน อาทิ Walmart ทำข้อตกลงจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 4,500 คันเพื่อใช้ในการจัดส่งสินค้าแบบ last-mile รวมถึงร่วมลงทุนใน Cruise เพื่อพัฒนารถจัดส่งสินค้าไฟฟ้าแบบอัตโนมัติที่จะช่วยเพิ่มความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ และลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาวเพื่อสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูง

การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของยานพาหนะ วิธีการเดินทาง หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเท่านั้นแต่เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน-สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์และสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงจึงไม่เพียงจะคว้าโอกาสในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเท่านั้นแต่จะยังมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตทางเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมๆ กันอีกด้วย